การประชุมสภาแห่งวอร์มส์ การปฏิวัติทางศาสนาและการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในยุโรป

การประชุมสภาแห่งวอร์มส์ (Diet of Worms) ซึ่งจัดขึ้นในปี ค.ศ. 1521 เป็นเหตุการณ์สำคัญในการประวัติศาสตร์ของยุโรป เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปศาสนาโปรเตสแตนต์ การประชุมครั้งนี้เกี่ยวข้องกับมาร์ติน ลูเธอร์ นักปราชญ์ชาวเยอรมันผู้ท้าทายอำนาจของคริสตจักรคาธอลิกและหลักคำสอนบางอย่างที่เขาเห็นว่าขัดต่อพระคัมภีร์

ก่อนการประชุมสภาแห่งวอร์มส์ ลูเธอร์ได้เผยแพร่ “95 ข้อโต้แย้ง” ซึ่งวิจารณ์การขายใบ Indulgence (ใบอนุญาตให้ทำบาป) ของคริสตจักรคาธอลิก การกระทำของลูเธอร์ทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างมากจากพระสันตะปาปาและฝ่ายอำนาจของคริสตจักร ลูเธอร์ถูกเรียกมาให้เข้าเงื้อมมือศาลศาสนาที่วอร์มส์

ในวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1521 ลูเธอร์ถูกเรียกตัวไปพบกับจักรพรรดิชาร์ลที่ 5 และเจ้าชายผู้คัดเลือกแห่งเยอรมันเพื่อให้เขาถอนคำกล่าวหาของตน ลูเธอร์ปฏิเสธที่จะยอมรับคำสั่งห้ามและยืนกรานว่าข้อโต้แย้งของเขามีพื้นฐานมาจากพระคัมภีร์

จักรพรรดิชาร์ลที่ 5 ออกคำสั่งห้ามให้ลูเธอร์เผยแพร่ความคิดเห็นต่อต้านคริสตจักรคาธอลิกอีก และประกาศให้ลูเธอร์เป็น “ผู้ลบหลู่ศาสนา” และถูกคัดเลือกออกจากโบสถ์

การตัดสินในสภาแห่งวอร์มส์มีผลกระทบที่รุนแรงต่อยุโรป

• การแพร่กระจายของลัทธิโปรเตสแตนต์: การยืนกรานของลูเธอร์ทำให้เกิดการปฏิรูปศาสนาอย่างกว้างขวาง ผู้คนจำนวนมากเริ่มหันไปนับถือศาสนาโปรเตสแตนต์ที่เน้นความสำคัญของพระคัมภีร์และความรอดโดยความเชื่อ

• สงครามศาสนา: การแพร่กระจายของลัทธิโปรเตสแตนต์นำไปสู่สงครามศาสนาระหว่างคาธอลิกและโปรเตสแตนต์ในยุโรปเป็นเวลานาน

• การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมือง: การปฏิรูปศาสนาส่งผลต่อโครงสร้างทางสังคมและการเมืองของยุโรป

การประชุมสภาแห่งวอร์มส์ถือเป็นจุดหักเหสำคัญในการประวัติศาสตร์ของยุโรป

แม้ว่าลูเธอร์จะถูกห้ามไม่ให้เผยแพร่คำสอนของเขา แต่ความคิดของเขากลับแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

การประชุมสภาแห่งวอร์มส์เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของประวัติศาสตร์และวิธีที่เหตุการณ์สำคัญสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ การปะทะกันระหว่างศาสนากับอำนาจนี้ยังคงมีอิทธิพลต่อยุโรปมาจนถึงทุกวันนี้