การปฏิวัติอียิปต์ 1952 กำเนิดของสาธารณรัฐ และความตึงเครียดกับจักรวรรดิบริติช

การปฏิวัติอียิปต์ในปี ค.ศ. 1952 เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในประวัติศาสตร์อียิปต์ ทลายล้างระบอบกษัตริย์ที่ปกครองมาหลายร้อยปี และนำไปสู่การสถาปนาสาธารณรัฐอียิปต์ การปฏิวัติครั้งนี้เกิดจากความไม่滿อย่างสูงของประชาชนชาวอียิปต์ที่มีต่อการปกครองของพระเจ้าฟารูคที่ 1 ซึ่งถูกมองว่าเป็นทรราชที่เสื่อมโทรม และการแทรกแซงของอังกฤษในกิจการภายในประเทศ

สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการปฏิวัติคือความไม่พอใจของประชาชนต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ การแบ่งชนชั้นอย่างชัดเจน ระบบเกษตรกรรมแบบ Feudal ที่เอารัดเอาเปรียบชาวนา และการครอบงำของอังกฤษในด้านเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ตกอยู่ในความยากจน

นอกจากนั้น อิทธิพลของแนวคิดชาตินิยมและความปรารถนาที่จะมีเอกราชเต็มตัวจากจักรวรรดิบริติชก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการปฏิวัติ

ในวันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 1952 กลุ่มทหารเสรีที่นำโดยนายพล มูฮัมมัด นา吉 บ และนายพล Gamal Abdel Nasser ได้ยึดอำนาจจากพระเจ้าฟารูคที่ 1 อย่างรวดเร็ว การปฏิวัติครั้งนี้ดำเนินไปอย่างสงบและได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากประชาชน

หลังจากยึดอำนาจได้สำเร็จ นายพล นา吉 บ และนายพล Nasser ได้ประกาศตั้งคณะปฏิวัติขึ้นมาปกครองประเทศ และเริ่มดำเนินการปฏิรูปในหลายด้าน

ผลกระทบของการปฏิวัติอียิปต์ 1952 มีต่อประเทศอียิปต์และภูมิภาคตะวันออกกลางนั้นมีมากมาย

ในระดับประเทศ การปฏิวัติทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยได้นำไปสู่การพัฒนาประเทศและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน

อย่างไรก็ตาม การปฏิวัติยังก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ อีกด้วย เช่น ความไม่มั่นคงทางการเมือง การลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และการขาดความโปร่งใสในการบริหาร

ในระดับภูมิภาค การปฏิวัติอียิปต์ 1952 ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างอียิปต์กับจักรวรรดิบริติช

การปฏิวัติอียิปต์ในปี ค.ศ. 1952 เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญและมีนัยยะลึกซึ้งในการพัฒนาประเทศอียิปต์

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากระบอบกษัตริย์เป็นสาธารณรัฐ และการพยายามที่จะสร้างชาติอียิปต์ที่ทันสมัยและเป็นอิสระนั้นได้จุดประกายให้กับกลุ่มชาตินิยมในภูมิภาคตะวันออกกลาง